การดูยามอุบากองเป็นศาสตร์โบราณที่คนยึดถือไว้ดูฤกษ์งามยามดีก่อนที่จะออกจากบ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้คนก็ยังคงยึดถือปฏิบัติกันอยู่ เพราะเชื่อกันว่าหากออกจากบ้านในช่วงเวลาที่ดีก็จะพบแต่เรื่องดีๆ และช่วยเสริมดวงชะตาในทุกๆเรื่อง แต่หากออกจากบ้านช่วงเวลากาลกิณีก็จะพบแต่เรื่องไม่ดีหรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง
การอ่านฤกษ์มงคลยามอุบากอง 67 มีความหมายดังต่อไปนี้
ศูนย์หนึ่งอย่าพึ่งจร แม้ราญรอนจะอัปรา
สองศูนย์เร่งยาตรา จะมีลาภสวัสดี
ปลอดศูนย์พูลสวัสดิ์ ภัยพิบัติลาภบ่มี
กากบาทตัวอัปรีย์ แม้จรลีจะอัปรา
สี่ศูนย์จะพูนผล แม้จรดลดีหนักหนา
มีลาภล้นคณนา เร่งยาตราจะมีชัย

รูปแบบของการดูยามอุบากองนั้นมี 3 วิธี ดังนี้
วิธีดู ยามอุบากอง แบบใช้วัน-เวลา เป็นนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด สามารถยึดได้ตามวันจันทร์-วันอาทิตย์ โดยสามารถแบ่งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ดังนี้
ยามอุบากอง 2567 ข้างขึ้น สามารถดูได้ง่ายๆ คือ สามารถยึดตามตารางเดิมได้เลย โดยสามารถแบ่งช่วงเวลาได้ดังนี้
วิธีดูยามอุบากอง 2565 ข้างแรม จะมีตารางที่แตกต่างกันกับข้างขึ้นคือจะต้องกลับเวลาเริ่มจากช่วงเย็นไปเช้า โดยสามารถแบ่งช่วงเวลาได้ดังนี้
ยามอุบากอง หรือ ยามพม่าแหกคุก เป็นการดูฤกษ์งามยามดีที่มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจะเอาไว้ดูวันเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการยึดถือยามอุบากองในการดำเนินชีวิตประจำวันด้วย

มีทหารนายหนึ่งซึ่งได้นำทัพเข้ามาโจมตีเมืองเชียงใหม่ในต้นสมัยรัชกาลที่ 1 เมื่อปี พ.ศ 2340 โดยทหารนายนี้มีชื่อว่า “อุบากอง” มียศเป็นขุนพลและเป็นหัวหน้าทัพในครั้งนี้ ในระหว่างที่ต่อสู้กันอุบากองก็ถูกจับตัวได้ พ่อเมืองเชียงใหม่จึงนำอุบากองส่งไปยังกรุงเทพฯ

เพื่อนำตัวไปสอบสวน ปรากฏว่า อุบากองนั้นเป็นคนไทย เกิดที่ไทย มีแม่เป็นคนไทย แต่พ่อเป็นเชื้อสายพม่า สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทรงพระเมตรตาจึงได้พระราชทานเสื้อผ้าให้ และให้นำไปขังไว้ที่คุกวัดเชตุพนฯ
ในระหว่างที่อุบากองอยู่ในคุก เขาก็ได้สอนตำรายันต์ยามยาตราให้กับเพื่อนๆ เมื่อเพื่อนเล่าเรียนกับเขาจนเข้าใจดีแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะแหกคุกหนี พอได้ฤกษ์งามยามดี อุบากองก็ได้ทำพิธีตามหลักโหราศาสตร์และสามารกแหกคุกหลบหนีไปยังพม่าอย่างปลอดภัย
แต่ก็มีนักโทษพม่าที่มีเชื้อสายไทยหลายคนที่ไม่ได้หลบหนีไปกับอุบากองด้วย พวกเขาจึงนำตำรายันต์ยามยาตรามาเล่าให้ผู้คุมนักโทษฟัง หลังจากนั้นก็ได้มีการนำตำรานี้มาเล่าเรียน และให้ชื่อยามยาตรานี้ว่า ยามอุบากอง ตามชื่อของทหารอุบากองนั่นเอง หลังจากนั้นผู้คนก็ลองพิสูจน์ดู ปรากฏว่าได้ผลและมีความแม่นยำมาก ก็เลยมีการศึกษาเล่าเรียนกันมาจนถึงทุกวันนี้
นี่คือคำถามที่เราพบบ่อยเกี่ยวข้องกับ ยามอุบากอง มีดังนี้
ยามอุบากองเป็นตำราโบราณที่มีคนยึดถือปฏิบัติกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ถือเป็นเครื่องเหนี่ยวจิตใจก่อนจะทำกิจกรรมต่างๆ หรือแม้แต่การเดินทางทุกครั้งก็ต้องดูฤกษ์ดีเสียก่อน ว่าเวลาไหนมีโชคลาภหรือมีเคราะห์หรือไม่ หากเป็นเวลาที่ไม่ดีก็จะหลีกเลี่ยงช่วงเวลานั้นไปก่อน